วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ฮาดิษพร้อมความหมาย

1) قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : إِنَّمَا اْلأَعْمَالُ بِالنِّيَّاتِ

ความว่า ?แท้จริงอาม้าลต่าง ๆ อยู่ที่เจตนา?

2) قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : اَلْبَيْعَانِ بِالْخِيَارِ مَا لَمْ يُفَرِّقَ

ความว่า ? ผู้ซื้อผู้ขาย มีสิทธิเลือก (ตกลงซื้อขาย หรือยกเลิก) ตราบใดที่ทั้งสองยังไม่ได้แยกออกจากสถานที่ทำสัญญา?ตัวอย่าง การกระทำของท่าน มีมากมาย เช่น การกระทำการละหมาด ฮัจย์ และการถือศีลอดเป็นต้น

3) قَالَ اللهُ تَعَالَى : وَمَا أَتَاكُمُ الرَّسُوْلُ فَخُذُوْهُ وَمَا نَهَاكُمْ عَنْهُ فَانْتَهُوْا {سُوْرَةُ الْحَشْرِ ٧}

ความว่า ?สิ่งใดที่ท่านร่อซู้ลนำมายังพวกท่าน พวกท่านจงยึดเอามาปฏิบัติ สิ่งใดที่ท่านร่อซู้ลห้ามพวกท่านจงหยุดการปฏิบัติ?2. มตินักวิชาการอุซูลุ้ลฟิกฮ์ คือคำพูด การกระทำ และการยอมรับที่มาจากท่านร่อซู้ล ศ็อลฯ จากคำนิยามของนักวิชาการอุซู้ลนั้น บ่งบอกถึงการศึกษา วิเคราะห์ถึงคำพูด การกระทำ การยอมรับของท่าน กลายมาเป็นกฎสากลต่าง ๆ ที่สำคัญ มาใช้เป็นธรรมนูญของการดำเนินชีวิต 3. มตินักวิชาการฟิกฮ์ คือ สุนัต ที่ตรงกันข้ามกับวายิบ ใครปฏิบัติได้รับส่วนกุศล ใครละทิ้งไม่โดนโทษ จากคำนิยามดังกล่าว บ่งบอกถึงการศึกษา วิเคราะห์การกระทำต่าง ๆ ที่กลายมาเป็นกฎฮุก่ม ชะเราะอ์ ทั้งห้า คือ วายิบ ฮารอม สุนัต มักโระห์ มุบาฮ์

4) فَإِنَ تَنَازَعْتُمْ فِيْ شَيْءٍ فَرُدُّوْهُ إِلَى اللهِ وَرَسُوْلِهِ {سُوْرَةُ النِّسَاءِ ٥٩}

ความว่า:ไว้ว่าแท้จริงปวงปราชญ์ได้ลงมติเอกฉันท์ว่า การตอบโต้ของโองการนี้มุ่งมายังพวกเราทั้งหลาย และทุก ๆ บุคคลที่ถูกสร้างด้วยจิตวิญญาณร่วมกัน จนกระทั่งวันกิยามัต ไม่ว่าญินหรือมนุษย์ และเช่นเดียวกัน โองการนี้ได้ตอบโต้ต่อกลุ่มซอฮาบะห์และกลุ่มชนรุ่นหลังซอฮาบะห์ และชนอื่น ๆ โดยไม่มีการแบ่งแยก
5)

قَالَ اللهُ تَعَالَى : وَمَايَنْطِقُ عَنِ الْهَوَى ? إِنْ هُوَ إِلاَّ وَحْيٌ يُوْحَى {سُوْرَةُ النَّجْمِ ۳?٤


ความว่า ?และเขาไม่ได้พูดตามอารมณ์ สิ่ง(ที่เขาพูด) นั้นมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นวิวรณ์ที่ถูกประทานลงมา?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น